“ชนเหล่าใดถูกราคะย้อมแล้ว ย่อมตกไปตามกระแสตัณหา เหมือนแมงมุมตกไปที่ใยอันตัวทำไว้ ฉะนั้น ชนผู้มีปัญญาทั้งหลายตัดกระแสตัณหานั้นแล้ว เป็นผู้หมดความห่วงใย ละเว้นทุกข์ทั้งปวงไป” โดยคำร้องนอกจากแสดงฉากเหตุการณ์และพระคาถาสำคัญที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ยังสะท้อนถึงความไม่เที่ยงแท้ของกายและสรรพสิ่งในโลก โดยมีวันและเวลาเป็นผู้กลืนกินทุกๆ สิ่งให้เสื่อมสิ้นไปในที่สุด อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้มีปัญญาพิจารณาได้อย่างลึกซึ้งว่าควรจะประพฤติตนให้ไม่ประมาทในวัยและเวลา เหมือนดังคำร้องท่อนสุดท้ายที่เป็นบทสรุปและเป็นชื่อคีตธรรมว่า “เปิดดวงเห็นความสัตย์จริง จากความจริงของเมืองแห่งกาย ตราบที่ลมหายใจสุดท้ายจะคืนสู่ดิน”
ขับร้อง : ปาน ธนพร แวกประยูร
คำร้อง : ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม
ทำนอง : เดชาณัฏฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์ และ รัชต์พงษ์ สมศรี
เรียบเรียง : เจษฎา สุขทรามร
มิวสิควีดีโอ : ภัทธิ บัณฑุวนิช
Translators:
สุดารัตน์ เข็มกลัด
สุเมธินท์ แสงไตรรัตน์นุกูล
ชัชรพล เพ็ญโฉม
Ashley Kennell