ฝึกสติ-รู้สึกตัวด้วยรูปแบบเดินจงกรม
การเดินเพื่อฝึกสติ-รู้สึกตัว เรียกกันว่า "เดินจงกรม" ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้ในการฝึกสติ-รู้สึกตัวได้เป็นอย่างดีรูปแบบหนึ่ง
หากสามารถฝึกสติ-รู้สึกตัวด้วยการเดินได้ จะทำให้สามารถหลอมรวมการปฏิบัติภาวนาให้อยู่ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เพราะในระหว่างวันทุกคนต้องมีการเดินอยู่บ่อยๆ ถ้าทุกครั้งที่มีการเดินแล้วสามารถมีสติ-รู้สึกตัวอยู่กับการเดินได้ แต่ละก้าวที่เดินในชีวิตประจำวันก็คือ การเดินจงกรม
แต่ละก้าวที่เดินในชีวิตประจำวัน ก็คือการเดินอย่างมีสติ-รู้สึกตัว จนสามารถรู้รูปนาม ซึ่งเป็นการเจริญวิปัสสนาได้ แม้จะกำลังเนินชีวิตประจำวันไปตามปกติ
เดินจงกรม เดินท่าไหนดี ?...
ให้เดินด้วยท่าทางที่สบายๆ (ให้เข้าใจว่า เราจะเดินจงกรม ไม่ใช่ย่องจงกรม)
ถ้าชอบเดินเอามือไปจับกันไว้ข้างหลัง ก็เอาไว้แบบนี้
ถ้าชอบเดินเอมมือมากุมไว้ข้างหน้า ก็เอาไว้แบบนี้
หรือจะเดินกอดอก เดินล้วงกระเป๋า เดินเอามือไว้อย่างไรก็ได้ และในระหว่างเดิน หากจะเปลี่ยนท่าทางสลับไปมา หรือเดินแบบไร้ท่าทางที่ตายตัวก็ได้ตามชอบใจ
เดินจงกรม ต้องเดินช้าหรือเร็ว ?...
อันนี้ต้องทดลองดูเอง ทดลองเดินช้าก่อนก็ได้ หรือจะทดลองเดินเร็วก่อนก็ได้
ถ้าเดินช้าแล้วรู้สึกอึดอัด เคร่งเครียดไป ก็เดินให้เร็วขึ้น
ถ้าเดินเร็วแล้ว รู้สึกใจจะลอยๆ ก็ให้เดินช้าลง
เดินช้า เร็ว ประมาณไหนแล้วรู้สึกได้ว่า เดินแล้วใจสบายๆ ไม่อึดอัด ไม่เคร่งเครียด ไม่ล่องลอยเกินไป ก็ให้เดินช้า เดินเร็ว ประมาณนั้นไว้
เดินจงกรม ต้องเดินไปกลับ หรือเดินวงไปเรื่อยๆ ?...
อันนี้ก็แล้วแต่สถานที่จะเอื้ออำนวย หรือจะเดินแบบที่ชอบก็ได้
ถ้าเดินไปกลับได้ก็ควรเดินไปกล้บ
แต่ถ้าจำเป็นต้องเดินวนไปเรื่อยๆ ขอแนะนำว่าให้มีตำแหน่งหยุดยืนเป็นระยะๆ เพราะตรงที่มีการหยุดยืนนี่เองจะเป็นจุดที่จิต กลับมามีสติได้ง่ายหลังจากที่เผลอหลงลืมไป
ส่วนการเดินไปกลับจะมีจุดที่ต้องหยุดยืนก่อนกลับตัวอยู่แล้ว และควรใช้ระยะทางเดินที่ไม่ยาวหรือสั้นเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่หัดเดินใหม่ๆ หากเดินเป็นระยะทางที่ยาวเกินไป ก็จะเดินแบบไม่มีสติหรือเผลอหลงนานเกินไป หากเดินเป็นระยะทางที่สั้นเกินไปก็จะเครียดง่าย
เดินจงกรมแล้วต้องดูอะไร ต้องรู้อะไร ?...
เดินแล้วก็
ให้สังเกตเห็น (รู้สึก) ว่ามีร่างกายกำลังเดิน ไม่ใช่เพ่งจ้องที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายจนเคร่งเครียด สังเกตเห็น (รู้สึก) ร่างกายที่เดิน ด้วยจิตใจที่สบายๆ นุ่มนวล แล้วไม่ฝืน ไม่บังคับจิต ถ้าจิตจะคิดก็ให้คิดได้ตามปกติ
ถ้าจิตจะเผลอหลงลืมกาย แล้วไปมอง ไปฟังเสียง ไปสนใจสิ่งอื่น ก็ให้จิตเผลอ หลงลืมกายไปได้ตามสมควร ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัว่าจะเผลอหลงไปนาน เพราะในจังหวะที่หยุดยืน จิตจะกลับมามีสติ-รู้สึกตัว หรือกลับมาสังเกตเห็น (รู้สึก) ร่างกายได้เองไม่ยาก
เมื่อได้เวลา ได้โอกาสเหมาะที่จะฝึกเดินจงกรมแล้ว
ก่อนเริ่มเดินจงกรม ให้สังเกตดูใจตัวเองก่อนว่า
มีความ
อยากเดินจงกรมหรือเปล่า
มีความ
คาดหวังว่าเดินแล้วจิตต้องสงบหรือเปล่า
เดินแล้วจิต
ต้องมีกำลัง ต้องตั้งมั่น อะไรทำนองนี้หรือเปล่า
หลายคนจะมีความอยาก มีความคาดหวังอะไรทำนองนี้ไม่มากก็น้อย ใครรู้สึกอยากเดิน รู้สึกคาดหวังผล อะไรอยู่ก็อย่าเพิ่งเริ่มก้าวเท้าเดิน ทั้งที่ยังอยากยังคาดหวังอยู่
ให้หัดดูจิตที่มีความอยากก่อน ให้หัดดูจิตที่มีความคาดหวังก่อน พอรู้สึกว่าความอยาก ความคาดหวังเบาบางลงแล้ว หรือหายไปแล้ว จึงค่อยเริ่มเดินได้
อันนี้เป็นเทคนิคของการเริ่มเดินจงกรมที่สำคัญมาก
ถ้าพลาดไปเริ่มเดินทั้งที่มีความอยาก มีความคาดหวังครอบงำจิต ก็จะพลาดไปติดเพิ่งเอาง่าย ๆ
ก่อนเดินจงกรมก้าวแรก...
ให้ยืนรู้สึกตัวสบายๆ ก่อน อย่าพรวดพราดเริ่มก้าวเท้าเดิน ยืนรู้สึกตัวสบายๆ ก่อน แล้วจึงเริ่มก้าวเท้าเดิน
ขณะกำลังเดินจงกรม...
ก็แค่...สังเกตเห็น (รู้สึก) ร่างกายที่เดินอยู่ด้วยจิตใจที่สบาย ๆ
เดี๋ยวจิตก็เผลอดหลงลืมกายไป เผลอไปคิดบ้าง เผลอไปมองบ้าง เผลอไปฟังเสียงบ้าง ซึ่งในขณะกำลังเผลอหลงไป จะสังเกตไม่ได้ (ไม่รู้สึก) ว่ามีร่างกายกำลังเดินอยู่ หรือถ้าสังเกตได้ (รู้สึกได้) ก็ไม่ชัด เบลอๆ มัวๆ และหลังจากที่เผลอหลงไปไม่นาน ก็จะรู้ว่าเมื่อกี้เผลอหลงไป พอรู้ว่าเมื่อกี้เผลอหลงไป ก็จะกลับมาสังเกตเห็น (รู้สึก) ว่ามีร่างกายกำลังเดินได้ใหม่
การเดินจงกรมจึงไม่มีอะไรมากไปกว่า
ขณะเดินให้สังเกตเห็น (รู้สึก) ว่ามีร่างกายกำลังเดิน สลับกับรู้ว่าเผลอหลงไป...เท่านี้เอง
สังเกตอย่างไรว่า เดินจงกรมถูกหรือไม่ ?...
1.
ถ้าเดินแล้วเครียด แน่น จุก อึดอัด แสดงว่าเพ่งมากไปแล้ว ให้หยุดพักผ่อน พอหายเครียด หายแน่น หายเพ่งแล้วก็ค่อยกลับมาเริ่มต้นใหม่ อย่าฝืนเดินไปทั้งที่เพ่ง เพราะถ้าฝืนเดินแล้วไม่หายเพ่ง ก็จะกลายเป็นเพ่งจนเคยชิน แล้วจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการเดินจงกรม แย่หน่อยก็กลายเป็นเพ่งจนชิน กว่าจะเลิกเพ่งก็ต้องเสียเวลาไปอีกหลายปีทีเดียว
2. ถ้าเดินแล้ว เกิดรู้สึกว่าร่างกายมีแค่เท้า มีแค่ขา มีแค่ตัว หรือมีแค่ส่วนเดียว ไม่รู้สึกว่ามีส่วนอื่นๆ อยู่ด้วย เช่นมีแต่หัว ไม่รู้สึกว่ามีหัว ก็แสดงว่าจิตไหลไปแช่ที่จุดใดจุดหนึ่ง ก็ให้ทราบด้วยว่า
การเดินแบบนี้อาจพลิกไปเป็นสมถะได้ แต่ไม่ใช่การฝึกเดินให้มีสติ-รู้สึกตัว
เดินจงกรม ต้องเดินนานแค่ไหน ?...
เรื่องเวลา ใครจะตั้งใจเดินนานสักกี่นาทีก็ได้ตามสะดวก แต่อย่าตั้งเวลาไว้นานเกินไป เพราะถ้าเดินไม่ไหว ก็จะบั่นทอนกำลังใจตัวเองเสียเปล่าๆ
แรก ๆ ที่ฝึกเดินจงกรมจะเริ่มฝึกสัก 5 นาที 10 นาทีก่อนก็ได้ ส่วนวันไหนเดินแล้วมีสติบ่อย จะเดินมากกว่าที่ตั้งเวลาไว้ก็ได้ หรือเมื่อเดินชำนาญแล้วจะเพิ่มเป็นกี่นาทีก็ตามแต่จะสะดวก
อ.สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา
จากหนังสือ คำบอกเล่าฆราวาสธรรม เรื่อง "ฝึกสติ-รู้สึกตัว ธรรมไม่ยาก"