Recent Posts

อนัตตานุปัสสนา


          เมื่อมาคำนึงถึงดวงจิตนี้ว่าเป็นอย่างไร มันหลงมันเมากับสิ่งใดอยู่บ้าง มันไม่หลงไม่เมาอยู่หรือว่ามันหลงมันเมาอยู่กับสิ่งใด ๆ มันหลงยึดหลงถืออะไรอยู่

          ถ้าเพ่งพิจารณาดูแล้วเห็นว่ามันรู้สึกตัวอยู่เสมอ จิตนี้มันไม่ได้หลงยึดอะไรเป็นแก่น เป็นสารสักอย่าง ในโลก อันนี้ทั้งภายในทั้งภายนอก

          คือว่า มองดูขันธ์ ๕ นี้ก็เห็นชัดเลยว่าเป็นของว่างเปล่าจากสัตว์ จากบุคคล ไม่ใช่เป็นตัวเป็นตนเป็นของตนจริงจังอะไร

          แล้วมองดูนอกขันธ์ ๕ นี้ออกไปก็มองไม่เห็นว่าอะไรจะเป็นแก่นสาร เป็นของเที่ยงของยั่งยืนที่จะให้เราได้อาศัยตลอดไป ไม่มีเลย

          มีแต่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น แล้วก็แปรปรวน แตกดับไป อยู่อย่างนั้น ถ้าหากว่าจิตของใครนะที่ได้อบรมสมาธิเจริญปัญญามา ถ้าเกิดความรู้ความเห็นขึ้นมาอย่างนี้เสมอๆไป นั้นแหละท่านเรียกว่า “อนัตตานุปัสสนา” แปลว่า เห็นแจ้งในธรรมทั้งหลายในสรรพสิ่งทั้งหลายว่าเป็น “อนัตตา” ไม่ใช่ตัวตนเราเขาอะไร

          นี่แหละคำที่ว่า มีพระธรรมหรือว่ามีคุณธรรมเป็นวิหารธรรม-เครื่องอยู่ภายในจิตใจ ให้พึงพิจารณาธรรมเหล่านี้เป็นอารมณ์อยู่เสมอ อย่างนี้แหละจึงเรียกว่า “ผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ภายในจิตใจ” เมื่อใจมันมั่นอยู่ในธรรมเหล่านี้เสมอๆ ไปมันก็ทิ้งโลกได้ อาศัยอยู่กับโลก แต่ไม่ติดอยู่กับโลก

          เหมือนกับน้ำไม่ติดอยู่ในใบบัว ธรรมดาใบบัวจะหนีน้ำไม่ได้เลย ต้องแช่อยู่ในน้ำนั่นแหละ แต่ว่าใบบัวหากไม่ติดอยู่ในน้ำ น้ำไม่ซึมซาบเข้าใส่ในใบบัวได้

          ฉันใดมุนีทั้งหลายก็ไม่ข้องอยู่ในอารมณ์ฉันนั้นแหละ ไม่ข้องไม่ติดอารมณ์ทั้งหลาย ไม่ได้ซึมซาบเข้าสู่จิตใจของมุนีผู้รู้ทั้งหลายก็ฉันนั้น

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ


หมายเหตุ อนุปัสสนา ๓  คือ 

อนิจจานุปัสสนา ได้แก่ ปัญญาที่พิจรณาเห็นรูปนามว่า ไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วดับไป เกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น รูปนามก็ปรากฏว่ามีแต่ความเสื่อมไปสิ้นไป แล้วมีใจวางเฉย มีสติรู้อยู่ (เห็นความไม่เที่ยง จิตปล่อยวาง) เรียกว่า อนิมิตตวิโมกข์

ทุกขานุปัสสนา ได้แก่ ปัญญาพิจรณาเห็นรูปนามว่า เป็นทุกข์ ทนอยู่ไมได้ ใจก็เกิดความสังเวช คือสลดใจรูปนาม เห็นรูปนามเป็นภัย คือ เป็นของน่ากลัว แล้วมีใจวางเฉย มีสติรู้อยู่ (เห็นความทุกข์ จิตปล่อยวาง) เรียกว่า อัปปณิหิตวิโมกข์

อนัตตานุปัสสนา ได้แก่ ปัญญาพิจรณาเห็นรูปนามว่า บังคับบัญชาใดๆไม่ได้ แล้วมีใจวางเฉย มีสติรู้อยู่ (เห็นว่าบังคับให้เป็นไปตามที่ใจต้องการไม่ได้ จิตปล่อยวาง) เรียกว่า สุญญตวิโมกข์