ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์ ใจเราเป็นยังไง รู้ว่าเป็นอย่างนั้น ถ้าเราอยากให้เป็นอย่างอื่น “รู้ทัน” ถ้าพอใจที่เป็นอย่างนี้ “รู้ทัน” ยินดี-ยินร้าย “รู้ทัน” เพราะฉะนั้นมันมี ๒ Step นะ กระทบอารมณ์แล้ว จิตเกิดสุข-เกิดทุกข์ เกิดกุศล-อกุศล “รู้ทัน”
อย่างนี้ หูได้ยินเสียงระฆัง ใจมันไหวริ้วๆๆ “รู้ทัน” ใจมีอาการขึ้นมาแล้ว “รู้ทัน” แล้วก็ถ้าใจพอใจ เก่งจังเลยวันนี้ เห็นใจไหวริ้วๆๆได้ ภูมิใจ เก่ง กูเก่งขึ้นมาแล้ว “รู้ทัน” รู้เข้าไป ยินดีพอใจแล้ว กร่างขึ้นมาแล้วเป็นไหมวันไหนภาวนาดีแล้วกูเก่ง วันไหนภาวนาไม่ดีแล้วห่อเหี่ยวไปหมด เนี่ยกรรมฐานนะ ไม่ใช่เรื่องบังคับจิตบังคับใจ ว่าต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์ แล้วใจเป็นยังไงก็รู้ว่าเป็นอย่างนั้น ใจมันไหวๆก็รู้ ใจมันสุข-มันทุกข์ก็รู้ ใจมันดี-มันชั่วก็รู้นะ พอรู้แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นนะ ใจเป็นยังไงก็รู้ว่าเป็นอย่างนั้น ถ้ายินดีขึ้นมา “รู้ทัน” ถ้ายินร้ายขึ้นมา “รู้ทัน” หลักปฏิบัติเท่านี้แหละ
แต่เราจะทำได้ ถ้าเราได้ฝึกซ้อม ถ้าเราไม่เคยได้ฝึกซ้อมเนี่ย ออกมาอยู่ในชีวิตจริง พอตามันกระทบรูป จิตมันจะวิ่งไปหารูปเลยมันจะไม่ย้อนมาดูจิตหรอก
อย่างเห็นผู้หญิงสวยเดินมาเนี่ย จิตมันจะวิ่งไปก่อน แล้วขามันวิ่งตามไปทีหลัง...ไปดู จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว นายวิ่งไปแล้ว ลูกน้องก็วิ่งตามไป ใจมันวิ่งไปก่อน อย่างเวลาตกใจกลัวอะไรสักอย่างหนึ่ง
ใจมันวิ่งหนีก่อนนะ แล้วเท้ามันถึงวิ่งตาม ใจมันเป็นเจ้านาย ลูกน้องมันคอยวิ่งตามไปเรื่อยๆ ค่อยๆเรียน ค่อยๆดูไปนะ
การปฏิบัติไม่ยากหรอก ข้อ ๑ ถือศีล ๕ ข้อ ๒ ทุกวันต้องแบ่งเวลาไว้ทำในรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องทำก่อนนอนนะ ถ้าบางคนตอนก่อนนอนมันง่วงทำไม่ไหว ทำตั้งแต่ตื่นนอน ตื่นให้เร็วขึ้น สัก ๑๕ นาที ๒๐ นาที มาภาวนา แล้วอยู่ในเวลากลางวันเนี่ย ช่วงไหนมีเวลาว่างไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้ความคิดก็ภาวนา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
![อายตนะ 12 [หลวงพ่อสุรศักดิ์]](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiESSft9FVL7p3gCkTrXPh7r2nHiaTvTVHhQl5owrkz9oCLf4qD5PQIJo0j-LZuZT2gz10sdLoanAfiZXd5obLj9p5i3-KqU3yN_onpYJJIMkfLpKOT9aiJBfzjRAMl0m4ryWJpqpZYQDw/w100/65.jpg)
