ทุกข์เป็นสิ่งควรรู้รอบ รู้รอบคือ รู้ด้วยสติ รู้ด้วยปัญญา
รู้ด้วยสติ คือรู้ถึง
ตัวสภาวะของมัน
รู้ด้วยปัญญา ก็จะ
เห็นลักษณะของมัน
รู้ด้วยสติ ก็คือเห็นสภาวะ เช่น
ความโกรธเกิดขึ้นเห็นความโกรธโผล่ขึ้นมา
รู้ด้วยปัญญา ก็คือ เห็นความโกรธนั้น
ไม่เที่ยง ความโกรธเป็น
ทุกข์ ความโกรธ
ไม่ใช่ตัวเรา บังคับไม่ได้ ห้ามไม่ได้ รู้ด้วยปัญญาก็คือเห็นไตรลักษณ์นั่นแหละ
รู้ด้วยสติ ก็เห็น
รูปนาม
รู้ด้วยปัญญาเห็น
ไตรลักษณ์
วิปัสสนาต้อง
เห็นรูปนามเป็นไตรลักษณ์ เพราะฉะนั้นต้องรู้ด้วยสติและปัญญา รู้ด้วยสติอย่างเดียวไม่ได้" บางคนไปเดินจงกรม เอาจิตไปจ่อไว้ที่เท้า เท้าเคลื่อนไหวอย่างไรรู้หมดเลย อันนั้นไม่มีปัญญา
ถ้ารู้ด้วยปัญญาจะเห็นเลย ตัวที่เดินอยู่ไม่ใช่เรา ตัวที่โกรธ ความโกรธนั้นไม่ใช่ตัวเรา สภาวธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัวเรา ไม่ว่าสภาวธรรมใดๆ ไม่ว่ารูปธรรมหรือนามธรรมก็ตาม ล้วนแต่ไม่ใช่ตัวเรา นี่อย่างนี้ถึงจะเรียกมีปัญญา
บุคคลถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา ถึงความบริสุทธิ์เป็นอย่างไร ถึงพระอรหันต์นั่นเอง บุคคลถึงความบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญานะ
ปัญญาเกิดจากอะไร ปัญญาเกิดจากการมีสติ รู้สภาวะของรูปธรรมและนามธรรมที่ปรากฏ แต่ปัญญาที่มีสติรู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเงื่อนไขที่สำคัญที่ทำให้เกิดปัญญา คือ สัมมาสมาธิ
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช