Recent Posts

รู้ให้กว้างทั้งตัว


          ฐานที่เล็กกับฐานที่ใหญ่ อันไหนมีความมั่นคงกว่ากัน ?

          ระหว่างการฝึกเพ่งจดจ่อที่จุดใดจุดหนึ่ง กับ การขยายการรับรู้ให้แผ่กว้างทั้งตัว

          สติปัฏฐาน รู้กายทั้งกาย แม้กระทั่ง อานาปานาสติ จากตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น หายใจเข้ายาว ออกยาว หายใจเข้าสั้น ออกสั้น รู้กองลมทั้งปวง จากนั้นก็จะเข้าสู่ที่เรียกว่า รู้กายทั้งกาย จากนั้นก็จะเข้าสู่อาการรู้ปีติ คือ รู้สึกทั้งตัว

          ในพระสูตรเราจะพบว่า สมาธิแบบพระพุทธเจ้า จะต้องประกอบไปด้วยสติ สัมปชัญญะ ถ้ากำหนดโฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่ง จะขาดสัมปชัญญะ จะขาดความรู้สึกตัว

          และสัมปชัญญะหรือความรู้สึกตัวนี่แหละ ที่จะทำให้ไม่หลงไปในอารมณ์ต่างๆ จิตจะไม่เกิดการส่งออก จิตจะเกิดความตั้งมั่นที่ถูกต้อง ไม่ต้องเป็นเพ่งที่จุดใดจุดหนึ่ง จิตก็มีความตั้งมั่นด้วยตัวของจิตเอง

          และเมื่อปฏิบัติได้ดี จิตจะสลายคลายตัวลงไป ที่เรียกว่าวิญญาณขันธ์สลายคลายตัวลงไป นั่นคือการเข้าถึงสภาวะรู้ที่บริสุทธิ์

          เมื่อใดที่วิญญาณขันธ์สลายตัวไป เข้าถึงสภาวะรู้ที่บริสุทธิ์นั่นแหละ คือสิ่งที่พุทธศาสนาเรียกว่า สุญญตา ความว่างจากตัวตน จากความยึดมั่นถือมั่น อัตตาความเป็นตัวเป็นตนจะหายไป อุปาทานจะหายไป

          แต่เมื่อใดที่เราอยู่ในความเป็นจิต ความเป็นตัวตนจะเกิดขึ้น เป็นเราคิด เราพูด เราคุย เรากระทำ
ทุกอย่างเป็นตัวเราทั้งหมด เพราะว่าตัวจิตคือตัวอุปาทาน เกิดมาจากอวิชชา

          แต่เมื่อใดที่เริ่มเข้าถึงฝั่งสภาวะรู้ จะเหลือแต่เพียงกิริยา การคิด การพูด การคุย การกระทำ

พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
ที่มา : เพจเดินจิต