เมื่อจิตก้าวเข้าถึงขั้น "ว่าง" ย่อมรู้ชัดว่า
ความกลัวเกิดขึ้นจาก "สังขาร" ผู้ปรุง เป็นสัตว์ เป็นเสือ เป็นเปรต เป็นผีต่างๆ ขึ้นหลอกหลอนตนให้กลัว แล้วก็เชื่อสังขารจอมหลอกหลอนจนหา ที่ปลง ที่วางไม่ได้
จิตที่ว่าง ย่อมไม่กลัว
เพราะรู้สาเหตุและ รากฐานทีทำให้เกิดความกลัวประจักษ์แล้ว ได้แก่ สังขาร ความคิดปรุง ซึ่งเกิด และดับ อยู่ในใจโดยเฉพาะ ไม่ถึงกับเป็น มโนภาพ ต่างๆ อันเป็นสิ่งที่น่ากล้า หรือน่ากลัว ขึ้นมาหลอกหลอนตน
คำว่า "
จิตว่าง" หมายถึง ว่างจากรูปภาพภายนอก ที่เคยปรุงเป็นคู่กับใจอยู่เสมอ เช่น รัก ชอบ หรือ โกรธเคืองให้ผู้ใด ใจย่อมคิดปรุงเรื่อง และภาพของคนน้ันอยู่เสมอ เป็นต้น เรียกว่า "ภาพภายนอก"
ส่วน
"จิตว่าง ทั้่งภายนอก ทั้งภายใน" แม้ตัวจิตเองก็
ไม่ยึดไม่ถือ ทั้งว่าง ทั้งปล่อยวาง โดยประการทั้งปวงนี้ คือ จิตหมดอุปาทานทั้งภายนอกและภายใน ถ้าเป็นพระหรือใครก็ตามบรรลุถึงธรรมขั้นนี้ ในคร้ังพุทธกาลเรียกว่า "บรรลุพระอรหัตตผล" เป็นพระอริยบุคคลขั้น "อเสขะ" ไม่ต้องศึกษาเพื่อละเพื่อถอนกิเลสใดๆ อีกต่อไป
หลวงตามหาบัว