มันคิดขึ้นมาครั้งที่ ๒ ก็เลยรู้จักความคิด ตอนรู้จักความคิดนี่ หลวงพ่อพยายามเดินกลับไป-กลับมา อยู่อย่างนั้น ‘อ้อ! มันคิดแล้ว’
นี่สมมติพูดให้ฟัง เพราะหลวงพ่อไม่ได้เรียนมา คือ ให้ทำเหมือนอย่างแมวกับหนู บ้านเรามีหนู เราจะไปไล่หนูออกจากบ้านนั้น มันไม่อยากออก จึงจำเป็นต้องเอาแมวมาเลี้ยงไว้ ต้องให้อาหารแมว…แมวมันกินแล้ว มันค่อย ๆ โตขึ้นมา
แม้เมื่อแมวยังเล็ก ๆ แต่หนูตัวใหญ่...แมวก็ไม่เคยกลัวหนู มันกระโดดตะครุบจับหนู...หนูก็พาแมววิ่งไปทันที แมวตัวเล็กจับหนูไม่อยู่ (หนู)ก็เลยหลุด พอหลุด หนูก็ไปได้…(หนู)ไม่ตาย แมวจึงทำลายหนูไม่ได้เปรียบได้อย่างนี้
เมื่อแมวโตขึ้นและมีกำลัง พอหนูซึ่งซ่อนอยู่ในที่มืด มันย่องออกมา แมวก็กระโดดจับปุ๊บ หนูช็อกตายทันที นี่...เพราะแมวมันมีกำลัง
ด้วยวิธีนี้หลวงพ่อจึงเห็นความคิด
‘โอ! ทุกข์-สุข...มันเกิดจากความคิด’
โอ...พระพุทธเจ้าทวนกระแสของน้ำนั้น ไม่ใช่แม่น้ำโขง ไม่ใช่แม่น้ำห้วยอย่างนั้น และมันก็ไม่ใช่น้ำอะไร(ทั้ง)หมด
‘น้ำ’นี่ หมายถึง ‘ความคิด’ มันชอบที่จะไหลไปสู่ข้างต่ำ มันชอบเข้าข้างตัวเอง เราต้องทวนกระแสของความคิด เมื่อมันคิดปุ๊บ เราจะดูมัน...ว่ามันมาจากไหน ?
เมื่อหลวงพ่อรู้จักต้นตอของความคิดนี่แหละ จึงรู้ว่า มันเป็นวัตถุชนิดหนึ่ง ที่มองไม่เห็นด้วยตา จับไม่ถูกด้วยมือ คนไม่มีสติปัญญาจริง ๆ ไม่มีญาณจริง ๆ แล้ว...ก็รู้ได้ยาก (ถึง)จะรู้ได้ ก็เพียงรู้จดจำ ที่หลวงพ่อได้นำมาเล่าสู่กันฟังนี้ ให้จดจำไว้
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ