ที่กระทบอยู่ในตัวเราทุกวันนี้ มี 3 เรื่อง
1. เรื่องพอใจ
2. เรื่องไม่พอใจ
3. เฉย ๆ ไม่แน่ใจ
นี่มีภาวะอยู่ 3 เรื่องนี้ เฉย ๆ ไม่แน่ใจ ว่าเอ๊ะมันจะเอายังไงกับมันดี หรือจะพอใจก็ไม่ใช่ ไม่พอใจก็ไม่ใช่
อุปมาเหมือนโยมกิน โยมกินน้ำ
ถ้าโยมกินน้ำหวาน สมมุติน้ำหวานเหมือนความพอใจนะ
อีกอันหนึ่งโยมกินน้ำขม
อีกอันหนึ่งน้ำ ก็จะเป็นน้ำธรรมดาที่ไม่หวานไม่ขมนะ
น้ำ 3 ชนิดนี้ โยมกินน้ำไหนได้มาก น้ำธรรมดา ใช่หรือเปล่า
จิตของเราน่ะมีภาวะนี้อยู่ทุกคน ลองดูสิ ถ้ามันมีน้ำหวานบ่อย ๆ จะเป็นโรคอะไร เบาหวาน
แต่ถ้ามันกินน้ำขม ขมตลอด ๆ ๆ ไม่ไหวตายก่อนดีกว่า ชีวิตไม่น่าอยู่เลย
ที่นี้มันเลยมีน้ำตัวนี้ น้ำธรรมดา ๆ นี่แหละ ไปล้าง
ที่อาตมาพาโยมฝึก กำลังพาฝึกให้มันเกิดน้ำตัวนี้ให้เยอะขึ้น เพื่อชำระล้างใจ ให้เข้าใจ
ภาวะรู้สึกที่รู้สึกธรรมดา ๆ กับทุกสิ่งนี้ แค่รู้เฉย ๆ
แค่รู้เฉยๆนี่คือภาวะของน้ำธรรธุมดา เพื่อไปล้างความเข้มข้นของความหวาน เข้มข้นของความขม เพื่อปรับสมดุลให้ดีดี
ความพอใจก็เหมือนกับน้ำหวานที่เราพยายามจะเสพมัน ติดกับมัน สร้างมัน แต่มันก็ได้แว้บเดียวแล้วก็หาย แว้บเดียวแล้วก็หาย
ธรรมชาติก็เลยผลิตสิ่งนี้มา
มีรูป มีเสียง มีกลิ่น มีรส มีสัมผัส
ที่มันรู้สึกว่าเราชอบ มันก็เลยสร้างอารมณ์
ตรงกันข้าม ธรรมชาติก็ทำส่วนหนึ่ง เช่น ดอกไม้สวยแต่ก็มีดอกไม้เน่า ควบคู่กันไป ดอกกุหลาบที่สวย
แต่มีดอกกุหลาบที่เหี่ยวและเน่าไปด้วย มันจะควบคู่ไปเลย
มีเสียงที่เพราะก็มีเสียงที่ไม่เพราะไปด้วย
มีกลิ่นที่หอม ก็ต้องมีกลิ่นที่เหม็นไปด้วย
มีผัสสะร่างกายที่สบายก็มีผัสสะร่างกายที่ไม่สบายไปด้วย
พอมีรสที่อร่อยก็มีรสที่ไม่อร่อยไปด้วย
นี่คือธรรมชาติที่มันทำอยู่ พอมันทำอย่างนี้มาปั๊บ มันก็สร้างอารมณ์ในใจเราขึ้นมา 2 ขั้วให้เราเห็น คือพอใจ กับไม่พอใจ
นี่สิ่งนี้มันทำกันมาอยู่ แต่สิ่งเหล่านั้นมันเคยสนใจเรามั้ย
บอระเพ็ดน่ะ มันก็ขมของมันอยู่อย่างนั้นแหละ เราจะชอบไม่ชอบมันก็ขมของมันอยู่อย่างนั้นแหละ สังเกตดูซิ มันไม่ได้หวานให้ด้วยนะ
อ้อยก็เหมือนกัน คุณจะชอบไม่ชอบมันก็หวานของมันอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับความชอบของคุณหรือไม่ชอบของคุณนะ
นี่คือ สติปัฏฐาน 4
เรากำลังฝึกภาวะของน้ำธรรมดา ๆนี้ที่จะไปละลายความรู้สึกของเราเองที่มันไปทั้ง 2 ฟากฝั่ง ถ้ายิ่งละลายมากได้เท่าไหร่นะ ความดิ้นรนในใจเรามันจะน้อยลง น้อยลง
พระกระสินธุ์ อนุภัทโท