ตอนที่ 2 รู้แล้วผ่านไป
ถ้าเรามีอาการอะไรเกิดขึ้นในกายในใจ แล้วเราไม่เห็นว่า มันเป็นแค่เรื่องของกายเรื่องของใจ กลับเอาความเป็นเราเข้าไปรองรับอาการเหล่านั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นทันทีคือ #ความทุกข์ และเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า อุ้ย เกิดความทุกข์ หรือความดิ้นรนทางจิตใจอะไรซักอย่างหนึ่งขึ้นมา #ลองสังเกตดูมันมีตัวเราเข้าไปรองรับอะไรหรือเปล่า
นี่เป็นศาสตร์ง่ายๆ ที่น่าอัศจรรย์ แล้วพอเราเริ่มเห็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันจะเกิดความเข้าใจที่ค่อยๆ ซึมซับทุกวันทุกเวลาว่า #กายนี้ไม่ใช่เรา_จิตใจนี้ไม่ใช่เรา อธิบายในเชิงเหตุผลก็คือว่า #เพราะมันเป็นสิ่งที่กำลังถูกรู้อยู่ เราเป็นคนที่รู้มันอีกทีนึง
ลองเป็นผู้สังเกตการณ์ต่อไป ไม่ต้องพยายาม มันเป็นเรื่อง #แค่รู้สึกร่างกายและจิตใจ_เป็นแค่สิ่งที่ถูกรู้ถูกเห็น อาการต่างๆ ที่ประกอบขึ้นในกายในใจก็เป็นแค่สิ่งที่ถูกรู้ถูกเห็น เหมือนมีอาการอะไรทางกายทางใจเกิดขึ้น จะพูดอีกมุมนึงก็คือ #เราเป็นแค่คนรับรู้รับทราบ_แล้วก็ผ่านไป
สังเกตมั้ยว่า บางทีร่างกายก็ต้องการลมหายใจเข้าออกไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน มันทำของมันเอง เวลาเราตื่นเช้าแบบนี้สมัยก่อน ได้ยินเสียงนก เรารู้สึกว่าชีวิตมีความสุขอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แฮปปี้ ยิ่งคนในเมืองได้ออกมาต่างจังหวัด สัมผัสธรรมชาติอากาศบริสุทธิ์ เสียงสัตว์ต่างๆ รู้สึกมีความสุข
แต่เรานักปฏิบัติธรรม เราได้ความสุขจากการเห็นว่า หูมันไปได้ยินเสียงได้เอง เมื่อมีเสียงเกิดขึ้นมันก็ไปฟังเอง ได้ยินเอง เรานั่งรู้สึกตัวอยู่ดีๆ เสียงนกมันร้องดังขึ้นมา มันก็แวบไปฟังทันทีทันใดด้วยตัวของมันเอง ไม่เกี่ยวกับเรา
เรามีความสุขกับการเห็นความจริงแบบนั้น ไม่ใช่มีความสุขกับเสียงนกที่ไพเราะ เราไม่ได้เป็นคนคนเดิมอีกแล้ว คนที่จะหลงรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสต่างๆ แล้วก็เกิดความยินดีพอใจ ไม่ยินดีไม่พอใจ เราเป็นผู้เห็นอายตนะตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจต่างๆ กำลังทำงานด้วยตัวของมันเอง #ไม่เกี่ยวกับเรา
เรากำลังฟังธรรมะง่ายๆ ก็เกิดความซาบซึ้ง เกิดสมาธิ ก็รู้ว่าตอนนี้เป็นแบบนี้แล้ว ไม่ใช่เราเหมือนกัน #แม้กระทั่งสมาธิก็เป็นสิ่งที่ถูกรู้เหมือนกัน
Camouflage