#การดูจิตที่ผิดพลาด
1. ไปเพ่งความว่าง เรียก "อากาสานัญจายตนะ"
2. ไปเพ่งจิต เรียก "วิญญาณัญจายตนะ"
เพ่งจิตยังแยกได้สองแบบ
แบบหนึ่งประคองจิต ประคองนิ่งเลย
อีกอันหนึ่งไปดูผู้รู้ แล้วก็เกิดผู้รู้ซ้อนผู้รู้ไปเรื่อยๆ วิญญาณเป็นอนันต์
3. ดูจิตไปๆ ไอ้โน่นก็ไม่ยึด ไอ้นี่ก็ไม่เอา
#ไม่เอาอะไรสักอย่างนะ
#จะเอาความไม่เอาอะไรเลย
#ไปยึดอยู่ในความไม่เอาอะไรเลย
นี่ชื่อ "อากิญจัญญายตนะ"
ไปดูจิตนะ จนกระทั่งมันไปอยู่ใน
อากิญจัญญายตนะนานๆ
โน่นไม่ยึด นึ่ไม่ยึดนะ
จิตมันรู้อารมณ์ที่ละเอียดมาก
#อารมณ์ที่ว่าง #แทบไม่มีอะไรเลย
จิตพอละเอียดมากนะ
กำลังของมันตกลงไปนะ
มันจะค่อยๆ คลายความรู้สึกตัวลงไป
จนกระทั่งเหลือความรู้สึกนิดเดียวนะ
เหมือนๆ จะไม่รู้สึกน่ะ
#รู้สึกเหมือนๆจะไม่รู้สึก
(ตรงนี้จะดูดีตรงกับสภาพที่เคยได้ยินได้ฟังมา เช่น รู้แบบเป็นธรรมชาติ ไม่ประคอง รู้หลวมๆ รู้ตัวแบบลืมตัว แต่จริงๆ เป็นสภาวะที่ ”ทำ” ขึ้นมาอย่างแนบเนียน)
เป็น "เนวสัญญานาสัญญายตนะ"
บางคนบอกตรงนี้ประณีตมากเลย แทบไม่มีอะไรเลย
#เนี่ยดูจิตผิดนะ #ก็ไปอรูป
#ดูกายผิด ก็เพ่งรูป
ไปเพ่งรูปเข้าไปก็ไปรูปฌาน
#ไปเป็นรูปพรหม
ไปดูจิตซึ่งเป็นนามธรรม
ถ้าดูไม่เป็นนะ
ดูแบบไปเพ่งจิตเข้า #ก็ไปอรูปฌาน
ไปเป็นอรูปพรหม
#ไม่ใช่ทางเดินของมรรคผลนิพพานเลย
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
วัดสวนสันติธรรม จ.ชลบุรี