ระลึกรู้ เป็นเรื่องที่เราต้องฝึกหัด ฝึกฝน ใส่ใจ
ส่วน ปล่อยวาง ก็เป็นเรื่องต้องฝึกหัดเช่นกัน
บางคนระลึกได้ แต่ไม่ปล่อยวาง
ยังยึดถือ ใจก็ไม่เบา ยังเศร้าหม่นหมองอยู่
ฉะนั้น เมื่อฝึกทำใหม่ ๆ
อาจต้องใช้คำสอน ที่เตือนใจตนเองไปก่อน
เวลาที่ใส่ใจระลึกรู้ ดูในกระแสจิต
ให้สอนตัวเองว่า ปล่อยวาง
ท่องคาถาว่า ปล่อยวางไปก่อน
หรือไม่ก็ท่องว่า ไม่เอาอะไร ไม่เอาอะไร
จิตจะค่อย ๆ คลายตัว
จากความอยาก จากความยึด
พอมันคลายตัวก็จะเบา
ใจจะใสขึ้น ๆ ความสุขก็เกิด
ความทุกข์ก็คลี่คลาย
เหมือนความร้อนที่มอดลง ความเย็นก็ปรากฏ
ฉะนั้น ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้
ให้เราใส่ใจ ระลึกรู้สึกตัว
รู้สึกตัวในที่นี้ คือทั้งกายทั้งใจ
นึกขึ้นได้เมื่อไร ก็ใส่ใจระลึก
ทำความรู้สึก ในกาย ในใจ ในปัจจุบัน
แล้วก็ใส่คำสอนไปก่อนว่า
ปล่อยวาง ไม่เอาอะไร
แค่นี้ก็มีประโยชน์อย่างมหาศาล
ได้รับประโยชน์ทันที
ที่เกิดการระลึกรู้ อย่างปล่อยวาง
ประโยชน์เกิดขึ้นทันที คือ
๑ ได้สะสมสติสัมปัชัญญะ ที่จะเป็นฐาน
ให้เกิดปัญญารู้แจ้งได้ตลอดเกิดขึ้น
๒ ได้รับความคลี่คลาย ได้รับความสุขใจเกิดขึ้น
ทำให้ชีวิตเราอยู่อย่างมีความสุข
ดูเหมือนจะไม่ยาก
เพียงแค่ระลึก อย่างปล่อยวาง
แต่ถ้าเข้าใจแล้ว ไม่ฝึกหัด ก็ทำไม่ได้
อยู่ที่เราต้องเริ่มต้นฝึกหัด ใส่ใจ
ระลึกเอาความรู้สึกตัว
รู้สังขารร่างกาย ด้วยความปล่อยวาง
ธัมโมวาท โดยพระวิปัสสนาจารย์
ท่านเจ้าคุณ พระภาวนาเขมคุณ วิ.
(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา