เวลาปฏิบัติ ทำให้มันสบายๆ
อะไรโผล่มา...
ก็แค่รู้...
แค่รู้...
รู้แล้วก็ปล่อยมันไป
ไม่ต้องอยากได้ความสงบ
ไม่ต้องอยากให้มันว่าง
ไม่ต้องอยากพ้นทุกข์อะไรทั้งนั้น
ตัวจิตอันเนี้ย
ความจริงน่ะมันเป็นธรรมชาติอันหนึ่ง
มันไม่มีตัวไม่มีตน
มันไม่มีเรา
มันแค่รู้อารมณ์
รู้อารมณ์เฉยๆ
มันคิดเองก็ไม่ได้
ปรุงแต่งอะไรไม่ได้
มันอยู่ว่างๆ อยู่เฉยๆ ของมัน
เนี่ยเดิมแท้ของมันเป็นอย่างนี้
เราจึงไม่ต้องไปคิดอะไร
ไม่ต้องไปทำอะไรมัน
แค่รู้ๆ รู้เฉยๆ
อะไรโผล่มาก็แค่รู้...
มันจะรู้ของมันเอง
ตัวที่มาปรุงแต่ง นั่นคือ “ตัวเจตสิก”
มันเป็นของเกิดดับ เป็นนามธรรม
ไม่มีตัวตนเหมือนกัน
มันจึงไม่ใช่เรา
อะไรวูบมา เดี๋ยวก็ดับ
ทางจิตใจ ทางกาย ก็เหมือนกัน
แน่นมาก็รู้ว่าแน่น
มันเห็นเป็นเวทนาไป
จิตก็แค่รู้ไป รู้...รู้...
รู้แล้วไม่มีเรา
มันก็รู้เฉยๆ น่ะ
แต่มีความรู้อยู่ว่า...
ไม่มีเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
เพราะฉะนั้นมันแค่รู้
เป็นธาตุรู้
มันรู้ๆๆๆ
อะไรเกิดก็รู้... รู้ไปเรื่อยๆ
สงบ ก็รู้ว่า สงบ
มันไม่ใช่ไปนิ่งอยู่กับความสงบนั้น
มันแค่รู้ว่าสงบ
มันไม่ได้เข้าไปแช่
จะนิ่งก็รู้ว่านิ่ง
ไม่ได้เข้าไป
แค่รู้ แค่ดูเฉยๆ
เหมือนเรายืนอยู่บนบ้าน มองไปตามถนน
เห็นคนเดินผ่านมาผ่านไป คนขับรถยนต์ผ่านไป
แค่รู้.. แค่ดู... ไม่ได้ตามอารมณ์ไป
โอวาทธรรม
พระอาจารย์ครรชิต สุทฺธิจิตฺโต