รู้..แบบโลกุตระ

 

#ปุจฉา: ถึงตอนวิปัสสนา เคยปุ๊บปั๊บตามตัวครั้งเดียว วันเดียว

วันต่อไปไม่เป็นอีก แสดงว่า ยังไม่เกิดวิปัสสนา ใช่ไหมเจ้าคะ?

#วิสัชนา: ตอบปัญหาธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร

ก็ไม่เสมอไปนะ

หลักๆ ให้วัดความตั้งมั่นของจิต

ใจเรามีความตั้งมั่น

แล้วก็ความสงบ ความโล่ง ความโปร่ง

แล้วก็เนื้อสภาวะที่ละเอียดประณีต

อันนี้มันวัดความละเอียดของสภาวะที่เข้าถึงได้

บางทีเราอยู่ข้างในมากกว่า

อาจจะไม่ได้รับรู้การแตกดับข้างนอก

แต่ว่า ข้างในมันโล่ง

มันสงบ มันว่าง อะไรอย่างนี้

มันไปรับรู้สภาวะข้างในมากกว่า

ก็ได้อะไรอย่างนี้

สิ่งสำคัญก็ คือ

รับรู้สภาวะที่ปรากฎ

ไม่ว่าจะเป็น

ระดับโลกียธรรมก็ดี

โลกุตรธรรมก็ดี

ก็มีสภาวะการรับรู้อยู่

สิ่งที่แตกต่าง

ระหว่าง โลกียธรรม กับ โลกุตรธรรม

ก็คือ การรับรู้ระดับโลกียธรรม

มันยังมีอาการยึดอยู่

ยังมีตัวรู้อยู่

แต่ถ้าเป็นโลกุตรธรรม

มันจะไม่มีการยึดธาตุขันธ์

มันเป็น แค่รู้สักแต่ว่ารู้

ให้สังเกต เวลามีตัวรู้

กับ เวลาที่มันไร้ตัวรู้

แต่มันเป็นการรับรู้ที่ไม่ยึดเกาะกับสิ่งใด

ปกติจิตมันต้องมีที่ยึด ที่เกาะ

แต่การรับรู้ระดับโลกุตระ

มันไร้การยึดเกาะ

มันเป็นอิสระจากขันธ์ทั้ง ๕ เลย

แต่มันรับรู้ได้

……………………………

ตอบปัญหาธรรมโดย

พระวิปัสสนาจารย์ พระมหาวรพรต กิตฺติวโร

ค่ำวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๓

ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธเขมรังสีพระศรีอยุธยา