Recent Posts

ปฏิบัติเหมือนไม่ได้ปฏิบัติ

 

ธรรมะอรุณสวัสดิ์...รับวันใหม่

.............................

ปฏิบัติ ให้เป็นปกติ #ปฏิบัติเหมือนไม่ได้ปฏิบัติ 

ปกติเวลาปฏิบัติ ก็มักจะไปตามดู ตามรู้ใช่ไหม?


แต่ถ้าปฏิบัติ แบบเหมือนไม่ได้ปฏิบัติ... ก็อยู่เฉยๆ 

ทำจิตใจเฉยๆ ไม่ไปตามดู ตามรู้อะไรทั้งหมด 

วางใจอยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปพยายามขวนขวาย 

ตามหา ตามดูอะไรทั้งหมด 


นั่งพัก พักใจ พักจิตใจ เหมือนไม่ได้ปฏิบัติ 

อยู่เฉยๆ ปล่อย ดูแลรักษาจิตให้อยู่เฉยๆ 

ให้จิตไม่ต้องตามดู ตามรู้อะไร 


มีอะไรเข้ามา ก็ปล่อยวางออกไป 

ละวางออกไป เพียงแต่นั่งหลับตา หลับตาเบาๆ 

ไม่ต้องเพ่ง สบายๆก่อน นั่งหลับตาสบายๆ 

รักษาจิตใจ ให้ไม่ต้องรับรู้อะไรได้ไหม? 


ให้จิตเหมือนกับก้อนหิน เหมือนกับท่อนไม้ 

เหมือนคนตาย เหมือนคนหลับ เหมือนคนสลบไป 

ไม่ต้องมีจิตรับรู้อะไร ให้จิตหมดการรับรู้

ดูซิได้ไหม?


ให้จิต หมดการรับรู้อารมณ์ ปิดการรับรู้ 

เหมือนหมดความรู้สึก เหมือนคนตาย 

เหมือนสลบไป เหมือนไม่มีชีวิต 

ดูซิว่า ให้มันหมดชีวิต ให้หมดจิต 

หมดการรับรู้ซิ ได้ไหม? 


ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ไปจดอยู่ 

ไม่อย่างนั้น จะไม่ได้รับประโยชน์ ต้องทำเลย 

ทำทีหลังก็ไม่ได้แล้ว ต้องทำตอนนี้ 

เลยจากนี้ไป ก็ไม่ได้ผล 


ทำใจว่า ให้ใจมันหมดการรับรู้ หมดความรู้สึก 

หมดการคิดนึก หมดความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น 

ให้จิตใจ เหมือนหายตัวไปแล้ว ไม่มีจิต ไม่มีใจ 

ไม่มีวิญญาณ ดูซิว่าจิตมันหายได้ไหม? 


ให้หมดการรับรู้ซิ ยังรู้อยู่ไหม?


ถ้ายังรับรู้ ก็แสดงว่าได้เห็นจิต เพราะจิต

ก็คือ ธาตุรู้นั่นแหละ จะให้มันหมดจิต

หมดการรับรู้ ก็ยังรู้อยู่ใช่ไหม?


ถ้าไม่ได้ ก็แสดงว่ายังได้เห็นรู้ ก็แสดงว่า

ได้เห็น จิต เพราะจิต ก็คือ รู้นี่แหละ 

เท่ากับได้รู้จิตผู้รู้ ที่กำลังรู้อยู่ 


ปล่อยวางทุกอย่าง ปลดปล่อย ปลดวาง 

ไม่ต้องตามดู ตามรู้อะไรทั้งหมด เป็นเจ้าของบ้าน

ที่ไม่ออกไปรับแขก ไม่ต้องไปหาแขก 

ไม่ต้องไปมองแขก แขกยังมาอยู่หรือเปล่า?


ยังมีแขกมาหาอีก คอยปลด คอยปล่อย 

คอยละ วาง ยังมีสภาวะมาให้รู้อยู่ หรือไม่? 


อยู่เฉยๆ ปลดปล่อย ปลดวาง 

แต่ก็ยังมีสภาวะมาอยู่ ยังรู้อยู่... 

สภาวะมามาก ถ้ามีสติอยู่ มีสติรับรู้สภาวะ

ทั้งๆที่อยู่เฉยๆ ทั้งที่อยู่นิ่งๆ 

ทั้งที่ปล่อยวางทุกสิ่ง แต่ก็ยังมาให้รู้อยู่ดี 


ก็ยังมีการรับรู้ ก็เรียกว่ามีสติอยู่ ถ้าไม่มีสติ

มันก็จะไม่มีการรับรู้ 

ไม่ต้องไปตามหา แต่ก็เข้ามาให้เห็น 

สบายไหม ไม่ต้องตามหา 


สมอง ก็คลี่คลายด้วย ก็โปร่งโล่งเบา 

คอยปล่อย คอยวาง ทำทุกอย่างไม่เอาอะไร

ให้ใจหมดการรับรู้ 


ให้ใจหมดการรับรู้ ก็หมดไม่ได้

ถ้าเห็นว่ายัง รู้ ก็แสดงว่า... เจอจิตผู้รู้ 

เจอง่ายๆ ไม่ต้องตามหาเลย 


เหมือนกับเจ้าของบ้าน พอไม่ไปตามหา

มันก็กลับมาที่ตัวเจ้าของเอง 

กลับมารู้สึกตัวเจ้าของเอง 

ถ้าไปตามหา ก็เลยตัวเจ้าของ 


หยุดใจไว้นิ่งๆ ไม่ต้องวิ่งรับรู้อารมณ์ 

แต่มันก็มีอารมณ์มาให้รู้ คอยปลด คอยปล่อย 

คอยละ คอยสละอยู่ อย่าตามแขกออกไป 

ตามแขก ติดแขก เกาะอารมณ์ ติดอารมณ์ 


#ทำใจสละละวางออกไป วางลงปลงได้  

ปลดปลงลงวาง ว่างสบาย 

ที่สุด ก็หยุดใจไว้นิ่งๆ ไม่วิ่งตามอารมณ์ 

หยุดดู หยุดรู้ อยู่อย่างปกติ 

รู้ทุกสิ่ง เป็นเช่นนั้นเอง


ดูซิว่าเป็นไฉน มันก็เป็นไป 

ตามเหตุตามปัจจัยของเขา 

เมื่อมีสิ่งนี้ เกิดเป็นเหตุปัจจัย อีกสิ่ง ก็เกิดที่เป็นผล 

เมื่อสิ่งนี้ดับ อีกสิ่ง ที่เป็นผลก็ดับ 

เหตุดับ ผลดับ เหตุเกิด ผลเกิด ตถตาเป็นเช่นนั้นเอง 


ถ้าเห็นอย่างนี้เรียกว่า... เห็นความจริง 

เห็นธรรมชาติความเป็นจริง เห็นความจริง

ของธรรมชาติ ของชีวิต อิทัปปัจยตา 

กฎธรรมดาของธรรมชาติ เพราะสิ่งนี้เกิด 

สิ่งนี้ก็เกิด เหตุเกิด ผลเกิด 

เพราะเหตุนี้ดับ อีกสิ่งนี้ก็ดับ เหตุดับ ผลก็ดับ


บังคับได้ไหม ความเปลี่ยนแปลง 

ดูซิว่ามันเที่ยง หรือไม่เที่ยง?


มันเปลี่ยนแปลง ก็เรียกว่า... ไม่เที่ยง 

สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นตั้งอยู่ไม่ได้

เปลี่ยนแปลง แล้วดับไป ตั้งอยู่ไม่ได้

เรียกว่า... ทุกข์ 

สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ 

#สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นก็เป็นอนัตตา 

บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ตัวเรา 

ไม่ใช่ตัวตนของเรา 


พิจารณาด้วยปัญญา อันเห็นชอบ

ตามความเป็นจริง...


เนตังมะมะ นั่นไม่ใช่ของเรา 

เนโสหะมัสมิ นั่นไม่ใช่ตัวเรา 

นะ เมโส อัตตาติ นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา 

เป็นปัญญา เป็นวิปัสสนาญาณ ที่รู้เห็นความจริง 


ทุกสิ่งเป็นเช่นนั้นเอง เห็นความไม่เที่ยง 

เห็นความตั้งอยู่ไม่ได้ เห็นความบังคับไม่ได้ 

เห็นความว่างเปล่า จากความหมาย

แห่งความเป็นตัวตน


............................

ธัมโมวาท โดยพระวิปัสสนาจารย์

‎ท่านเจ้าคุณ ‎พระภาวนาเขมคุณ วิ.

(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)